ส.ส.สับกกต.ความโปร่งใสเลือกตั้ง – ไม่มุ่งแก้การเมืองแจกกล้วย เลขาฯ กกต.รับถูกปัดตกวิธีรายงานคะแนน

วันที่ 12 มกราคม 2566 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีระเบียบวาระว่าด้วยการรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอรายงานผลการปฏิบัติงานของกกต.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ส.ส.ร่วมอภิปรายในประเด็นสำคัญคือ การจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใสตั้งแต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง การอำนวยความสะดวกในการหาเสียงเลือกตั้ง และการเปิดเผยคะแนนแต่ละหน่วยเลือกตั้งหรือการใช้เทคโนโลยีรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ด้านแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะตัวแทนผู้ชี้แจงยืนยันว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน ในประเด็นความโปร่งใส วันเลือกตั้งจะเปิดให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การเปิดให้ลงคะแนนจนถึงการรายงานผล 

พร้อมทั้งรับกลายๆ ว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งปัดตกวิธีการรายงานผลคะแนนแบบใหม่ที่สำนักงานฯ เสนอให้พิจารณา ซึ่งคาดว่า จะเป็นแอพพลิเคชั่นการรับสมัครผู้แทนและการรายงานผลที่มีรายงานข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่แสวงออกมายอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ขาดเทคโนโลยีและการตัดจบความร่วมมือพัฒนาแอพพลิเคชั่นกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังที่พัฒนามาตั้งแต่ปี 2565

ก้าวไกลเรียงหน้าฉะค่านิยม กกต.จะโปร่งใสได้จะต้องเปิดตั้งแต่คะแนนหน้าหน่วย 

พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาท พรรคก้าวไกล ซักถามผู้ชี้แจงว่า ในรายงานระบุว่า กกต.มีค่านิยม OECT ย่อมาจากคำว่า Openness (การเปิดกว้าง เปิดเผยโปร่งใส) Efficiency (ความมีประสิทธิภาพ) Communication (การสื่อสารดี) และ Technology (ก้าวหน้าทันเทคโนโลยี) พล.ต.ต.สุพิศาล มองว่า สิ่งสำคัญคือ Openness และตั้งคำถามว่า “พร้อมหรือยังครับที่จะเปิดเผยคะแนนหน้าคูหาเลือกตั้ง?” คะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้งกว่า 90,000 หน่วยเลือกตั้งควรจะกดส่งออนไลน์ได้เลย เนื่องจากทุกหน่วยเลือกตั้งจะมีแอพพลิเคชั่นที่รายงานอยู่แล้ว คะแนนที่ถูกกรอกในระบบแล้วควรคงความเป็นดิจิทัลไว้ อย่านำคะแนนแปลงเป็นไฟล์ PDF ซึ่งจะเสียเวลา สิ่งนี้คือ จุดตัดว่า วิสัยทัศน์ Openness ของ กกต.จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ “กกต.จะต้องแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความมีประสิทธิภาพและความแม่นยำของการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งและประมวลผลในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อให้คนในประเทศที่อยู่รู้เห็น”  

ประเสริฐพงศ์ ศรนุวัตร์ พรรคก้าวไกล ระบุอ้างอิงจากรายงานว่า กกต.จะสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งในการรายงานผลการเลือกตั้ง และเริ่มอภิปรายว่า ปี 2562 พบข้อบกพร่องของการรายงานผลการเลือกตั้งอยู่ที่จุดรวมคะแนนที่จังหวัด อยากถามว่า กกต.จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเพราะที่ผ่านมาภาคประชาชนอยากรู้ผลคะแนน การนับคะแนนแต่ละเขตเลือกตั้งแต่ละอำเภอมีคะแนนเข้ามาและมีการรวมคะแนนไว้ที่จังหวัด แต่ปรากฏว่า ปิดห้อง ปิดเงียบ ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมแล้วหลักธรรมาภิบาลอยู่ตรงไหน? การที่ไม่เปิดเผยแบบนี้ทำให้เกิดกระบวนการที่ภาคประชาชนสามารถตั้งข้อสงสัยได้ กลับกลายเป็นว่า ภาคประชาชนในจังหวัดกระบี่ต้องติดตามผลคะแนนทางสื่อทีวี ทำไมไปตามที่หน่วยเลือกตั้งหรือหน้า กกต.จังหวัดไม่ได้ เรื่องนี้เป็นความบกพร่องที่ต้องรีบแก้ไข ตามข่าวระบุว่า กกต.พร้อมเลือกตั้งแต่ขาดเทคโนโลยี ขาดแอพพลิเคชั่นในการรายงานผลด้วย

“ผมคิดว่า ท่านต้องให้สัมภาษณ์ใหม่ ท่านต้องไปดูข้อกฎหมายว่า ท่านมีหน้าที่ต้องรายงานและต้องเปิดเผย ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของผมด้วยและภาคประชาชนเยอะแยะ เพราะฉะนั้นหลักธรรมาภิบาล ท่านจะต้องเปิดเผยโปร่งใสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ท่านจะมาอ้างว่า เขารายงานในหน่วยเลือกตั้งแล้ว ผมไม่ได้ประจำทุกหน่วย ผมเป็นประชาชน ผมอยากดูในภาพรวมจังหวัด…ท่านต้องมีจอแสดงภาพที่ชัดเจน ก่อนจัดการเลือกตั้ง จัดอบรมดีมากผู้สมัครอย่าซื้อเสียงอย่างนู้นอย่างนี้ เรียกร้องคนอื่นแต่ไม่เคยดูสำรวจตัวเอง วันนี้ผมมาบอกข้อบกพร่องของท่านเพราะวันนี้ท่านบอกเจตนารมณ์ ท่านบอกวิสัยทัศน์ว่า ต้องสร้างเครือข่าย ผมนี่ละครับเป็นเครือข่าย ผมมาบอกท่านแล้ว ท่านช่วยปรับปรุงด้วยนะครับ”

นอกจากนี้ ประเสริฐพงศ์ยังติงว่า กกต.ไม่มียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน สร้างความรู้ความเข้าใจในระบอบการปกครองประชาธิปไตยในเขตทหาร “ท่านกลัวอะไรครับ เข้าไปสิครับ หน่วยทหารราบ กรมกองที่เท่าไหร่ โรงเรียนนายร้อย จปร. เอาความรู้ประชาธิปไตยไปใส่หัวพวกเขาสิครับว่า หยุดเอาอำนาจประชาชน หยุดปล้นอำนาจประชาชน หยุดเอาปืน หยุดเอารถถังมาปล้นอำนาจประชาชน เพราะนั่นคือการคอร์รัปชั่นที่ร้ายแรงที่สุด…” 

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล พรรคก้าวไกล กล่าวถึงข่าวที่ กกต.จะไม่มีแอพพลิเคชั่นสำหรับการสมัคร ส.ส. และการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ เนื่องจาก กกต.ไม่เชื่อว่า ระบบที่จัดทำขึ้นนั้นจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ในอดีตที่ทำให้การรายงานผลการเลือกตั้งมีความคลาดเคลื่อนได้ และกล่าวว่า “วิสัยทัศน์ พันธกิจของ กกต.ไม่มีอะไรซับซ้อน คือ การจัดการเลือกตั้ง จัดประชามติ ให้เป็นไปอย่างสุจริต ยุติธรรม และโปร่งใส ผมคิดว่า การรายงานผลอย่างทันท่วงทีในระบบออนไลน์…มันเป็นความโปร่งใสที่จะทำให้คำถามของประชาชน ข้อกังขาของประชาชนลดลงอย่างมากในวันที่มีการเลือกตั้ง” ข้อครหาเมื่อสี่ปีที่แล้วอาจจะบอกให้ กกต.ได้ทราบว่า ควรทำเช่นไร เหตุใดถึงมองว่า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นในราคายี่สิบล้านบาทแพงเกินไป เขามองว่า ในการรายงานผลออนไลน์ ความคลาดเคลื่อนหรือความผิดพลาดของมนุษย์หรือเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และเข้าใจดีว่าทุกคนเหนื่อยและเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิสูงมาก การสังเกตการณ์ของประชาชนจะช่วยเกื้อกูลการทำงานของรัฐได้ อย่างไรก็ตามความผิดพลาดอาจจะน้อยลงหากมีการอบรมเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งให้เข้าใจและรอบคอบในการกรอกข้อมูล

ประชาธิปัตย์ติง กกต.ไม่แก้โจทย์ “ธนกิจการเมือง” – เร่งแบ่งเขตเลือกตั้ง

น.ต.สุธรรม ระหงษ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากแบ่งอย่างไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมจะมีผลในทางความได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งทุกพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งมีความกังวลอย่างยิ่งจึงอยากให้ กกต.ดำเนินการอย่างโปร่งใสและขอให้สำนักงานฯดำเนินการให้รวดเร็ว เพราะเขตเลือกตั้งเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งและสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของทุกพรรคการเมืองทั้งใหญ่และเล็ก รวมถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นซึ่งกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรและต้องเป็นไปตามประกาศของ กกต.ที่จะต้องประกาศออกมา ขณะเดียวกันประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายในประเด็นนี้ไว้ด้วยว่า ปัจจุบันประชาชนมีความสับสนว่า เขตเลือกตั้งหนึ่งๆ มีขอบเขตอย่างไรบ้าง กรณีของกระบี่ที่เมื่อสอบถาม กกต.จังหวัดได้รับคำตอบว่า ยังไม่ชัดเจนต้องรอพรรคการเมืองบอกมาก่อนจึงสงสัยว่า สรุปแล้วการแบ่งเขตขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือ?  

ชินวรณ์ บุญยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กกต.มีพันธกิจระยะปี 2561-2580 ในการสร้างความเข้มแข็งในกระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้ได้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ซึ่งเขามองว่า ไม่พอ กกต.จะต้องกล้าหาญพอที่จะเขียนว่าจะดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม เนื่องจากเป็นโจทย์สำคัญในการเมืองยุคธนกิจการเมืองในปัจจุบัน “เข้าสู่การเมืองยุคที่ต่างคนก็คิดกันว่า จะใช้อำนาจ จะใช้เงินเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งอย่างไร เพราะฉะนั้นถ้า กกต.ไม่เริ่มต้นด้วยการตั้งโจทย์เหล่านี้ให้ถูกต้อง ผมก็คิดว่า กกต.ก็ไม่ต่างอะไรกับที่กระทรวงมหาดไทยเคยจัดการเลือกตั้ง” เขาระบุว่า เสียดายที่ร่างกฎหมายของพรรคไม่ผ่าน เนื่องจากจะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาช่วยตรวจสอบการเลือกตั้ง จะได้เห็นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ชิณวรณ์ ระบุว่า อยากเห็นการเตรียมการบริหารการเลือกตั้ง กระบวนการมีส่วนร่วม และการสร้างจิตสำนึก จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นวี่แวว ทำให้ กกต.เป็นหน่วยงานที่ทำงานแบบตั้งรับต่อไป  

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง อยากเห็นการสร้างมีความมีส่วนร่วมและระดมกำลังจากส่วนราชการต่างๆ เพื่อมาร่วมมือกับ กกต.ให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวได้ และตั้งคำถามถึงการเตรียมการในกระบวนการสอบสวน ไต่สวนและพิจารณาคดีทุจริตเลือกตั้ง

เพื่อไทยเร่ง กกต.สั่งเปิดพื้นที่ราชการและวัดให้หาเสียงอย่างสะดวก

ขจิตร ชัยนิคม พรรคเพื่อไทย เสนอแนะเรื่องการสรุปบทเรียนและการถอดบทเรียนในการปฏิบัติงานคือ การให้นักการเมืองใช้สถานที่ในการหาเสียง ขอให้ กกต.ประสานไปยังพื้นที่ราชการและวัดต่างๆ ให้เปิดพื้นที่ในการหาเสียง ไม่ใช่แต่ละครั้งจะต้องทำหนังสือขออนุญาตสถานที่ราชการ หรือการไม่ให้ใช้พื้นที่วัด กกต.ต้องสรุปบทเรียนว่า ทำเช่นไรให้การหาเสียงในทุกพื้นที่ทุกพรรคการเมืองมีความเสมอภาคกันและไม่ต้องยุ่งยากในการดำเนินการ ขอให้ กกต.ไปคิดวิธีการที่เป็นมาตรฐานมาเพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้บริหารสถานที่สามารถอนุญาตให้ใช้ได้ ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคม 2561 ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปมหาเถรสมาคมเคยออกคำสั่งห้ามเจ้าอาวาสใช้ ยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้วัดเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางการเมือง อีกนัยหนึ่งคือ การห้ามหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่วัด

เขากล่าวอีกว่า ตลอดการเลือกตั้งที่ผ่านมาระยะ 40 ปี ไม่มีหน่วยงานที่ปราบปรามการซื้อเสียงอย่างทันท่วงทีอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น กกต.จึงจำเป็นที่จะต้องรับมือให้ทันด้วยการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วไปตรวจสอบทันทีที่ประชาชนร้องทุกข์ ขจิตรเล่าถึงวิธีการซื้อเสียงว่า เป็นการนัดคนมาทีละอำเภอและตั้งโต๊ะจ่าย ไม่ปรากฏว่า กกต.จับคนซื้อเสียงได้ ในช่วงรัฐประหาร 2557ทหารเชิญเขาไปสอบถามว่า จะปราบการซื้อเสียงอย่างไร เขาบอกว่า ใครจะเป็นคนจับคนซื้อเสียง แต่ทหารบอกว่า ทหารไม่จับเพราะกลัวประชาชนเกลียด แต่ กกต.มีหน้าที่ชัดเจนต้องประสานให้เกิดการปราบปรามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม

เลขาฯ กกต. เผยกกต.ปัดตกวิธีรายงานผลที่สำนักฯ เสนอ แต่ยืนยันยังรายงานผลไม่เป็นทางการแน่

แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า สำนักงานฯ ตระหนักดีถึงเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ร่วมอภิปรายมา “เห็นตรงกันเกือบจะทุกเรื่อง แต่ในส่วนของสำนักงานฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็พยายามจะปรับปรุงให้งานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ประชาชนหรือตามที่รัฐธรรมนูญได้ออกแบบไว้” และชี้แจงในภาพรวมคือ ความต้องการเห็นการเลือกตั้งที่ดี ในส่วนของสำนักงานฯ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่ดีมีองค์ประกอบเช่น การมีกติกาหรือกฎหมายที่ดี ซึ่ง กกต.ทำตามกฎหมาย หน่วยเลือกตั้งและกรรมการที่ดี 

“หน่วยเลือกตั้งที่ดีหมายถึงการที่ประชาชนเลือกผู้สมัครผู้ใดคะแนนต้องออกมาเป็นอย่างนั้นเป็นการรักษาสิทธิของประชาชนที่จะได้ใช้อำนาจของตัวเองในการเลือกผู้แทน และมีการบริหารจัดการอำนวยความสะดวก มีความโปร่งใส มีส่วนร่วม ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราวางเป้าหมายไว้อย่างนี้คือ การมีหน่วยเลือกตั้งที่ดีต้องมีความโปร่งใส มีการแสวงหาการมีส่วนร่วมเพื่อให้ประชาชน พรรคการเมือง หรือองค์กรเอกชน หรือผู้สื่อข่าวได้มาตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งตั้งแต่เปิดการลงคะแนนจนถึงการรายงานผลคะแนน” เขาระบุว่า ส่วนนี้สำนักงานฯ พร้อมแล้ว และการมีกรรมการที่ดี ในการเลือกตั้งครั้งนี้เพิ่มกรรมการมากขึ้นเนื่องจากมีบัตรเลือกตั้งสองใบ 

“การรายงานผลคะแนนต้องมีความโปร่งใส…ถึงแม้เราจะไม่ได้มีรายงานผลคะแนนที่สำนักงานฯ เสนอให้กกต. แต่เราก็ได้นำกราบเรียน กกต.แล้วว่า เราจะทำรายงานผลคะแนนเหมือนเดิม ไม่ได้ช้าเหมือนเดิม เราจะเน้นความถูกต้องและความรวดเร็ว ประชาชนจะได้ทราบผลคะแนนที่ถูกต้องและรวดเร็วเหมือนเดิม โดยเราก็มีระบบมีวิธีการที่รองรับ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ทราบผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเหมือนเดิมและเน้นไปที่ความถูกต้องรวดเร็วด้วย ส่วนนี้แสดงถึงความโปร่งใสของสำนักงานฯ และคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วย”  

แสวงตอบปกรณ์วุฒิที่ถามเรื่องระยะเวลาในการรายงานผลคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้งว่า “ประมาณ 17.00 น. จะปิดการลงคะแนน และมีการกระทบยอดบัตรว่า บัตรผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งตรงกับจำนวนบัตรหรือไม่ และเริ่มนับคะแนน คะแนนคงจะเริ่มเข้าตั้งแต่หกโมง (เย็น) …การนับคะแนนก็น่าจะเสร็จประมาณสามสี่ทุ่ม หมายถึงหน่วยไหนไม่ได้มีปัญหาอะไร คะแนนไม่เป็นทางการจะเริ่มวิ่งตั้งแต่คะแนนเข้า มันจะเห็นแนวโน้มไปจนถึงไม่เกิน 95 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นคะแนนไม่เป็นทางการกฎหมายบอกว่า ให้นับไม่เกิน 95 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกระบวนการแบบนี้ น่าจะทำให้เห็นผลคะแนนหรือแนวโน้มในการเลือกตั้งทั้งแบ่งเขตหรือแบบบัญชีรายชื่อ ครั้งนี้ที่แบบบัญชีรายชื่อไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร สักสามสี่ทุ่มก็น่าจะเห็นผลคะแนนแล้ว” 

ประเด็นการแบ่งเขตเลือกตั้ง ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจำนวนประชากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นจำนวนที่จะใช้ในการแบ่งเขตการเลือกตั้งปี 2566 เรื่องทางธุรการและการบริหาร สำนักงานฯ เตรียมข้อมูลในการแบ่งเขตแล้ว ส่วนการแบ่งเขตจะเที่ยงธรรมหรือเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่นั้น สำนักงานฯ ใช้หลักเกณฑ์ตามกฎหมายและคำนึงถึงความเที่ยงธรรมโดยจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้สมัคร พรรคการเมืองและประชาชนที่แสดงความคิดเห็นรูปแบบการแบ่งเขตของแต่ละจังหวัดที่มีอย่างน้อยสามแบบเป็นระยะเวลาสิบวัน ข้อมูลเหล่านี้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดจะเสนอประกอบการพิจารณาในการแบ่งเขตของ กกต. ด้วยวิธีการเช่นนี้จะทำให้การแบ่งเขตเป็นที่ยอมรับได้ “ตั้งแต่ปี 62 ก็มีกระบวนการเดียวกันนี่แหละ บางครั้งอาจจะมีการนำไปพูดไปอะไรได้ แต่ผมยืนยันในส่วนสำนักงานฯ ว่า ได้ดำเนินการแบ่งเขตเป็นไปตามกฎหมาย”