แก้ระบบเลือกตั้งสำเร็จ ส.ว.ปล่อยฟรีโหวต สายทหารเทเห็นชอบ

10 กันยายน 2564 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 สำเร็จเป็นครั้งแรก การแก้ไขครั้งนี้เกี่ยวข้องกับระบบเลือกตั้ง โดยหัวใจของการแก้ไขคือ การแก้ไขให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบ และให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การแก้ไขครั้งนี้ผ่านเงื่อนไขสามข้อที่เป็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปได้ คือ
๐ ผ่านเงื่อนไขที่หนึ่ง มี ส.ส.ที่ไม่ได้สังกัดพรรคที่มีรัฐมนตรี หรือ ประธานรัฐสภา/รองประธานรัฐสภา ร่วมโหวตเห็นชอบ 20% หรือ 49 คนขึ้นไป ซึ่งนับคะแนนเสียงของ ส.ส. พรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียวก็เพียงพอที่จะผ่านเงื่อนไขนี้แล้ว โดยผลสรุปคือ เห็นชอบ 115 เสียง ไม่เห็นชอบ 18 เสียง งดออกเสียง 61 เสียง
๐ ผ่านเงื่อนไขที่สอง มี ส.ว. จำนวนหนึ่งในสาม หรือ 84 คนขึ้นไป เห็นชอบด้วย ซึ่งในการลงมติที่ผ่านๆ มา นี่คือเงื่อนไขสำคัญ โดยผลการลงมติครั้งนี้มีเสียง ส.ว. เห็นชอบ 149 เสียง ไม่เห็นชอบ 10 เสียง งดออกเสียง 66 คน
๐ ผ่านเงื่อนไขที่สาม มี ส.ส และ ส.ว. ร่วมกันเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ หรือ 365 คน จากทั้งหมด 730 คน ซึ่งผลการลงมติรวม เห็นชอบ 472 เสียง ไม่เห็นชอบ 33 งดออกเสียง 187 เสียง
สำหรับการโหวตครั้งนี้สายตาถูกจับจองไปยัง ส.ว. แม้ก่อนหน้าการโหวตจะมี ส.ว.บางส่วนแสดงจุดยืนไม่เห็นชอบแก้ระบบเลือกตั้ง แต่ผลออกมาว่า มี ส.ว. ถึงจำนวน 149 คน ลงมติเห็นชอบ ขณะที่อีก 101 คน ลงมติไปในทางตรงข้ามหรือไม่เข้าร่วมประชุม
โดยเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ว. ที่ลงมติเห็นชอบเป็น ส.ว.สายทหาร 75 เสียง จากจำนวนคนที่เห็นชอบ 149 คน ในส่วนของ ส.ว. ที่ลงมติไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียงส่วนใหญ่เป็น ส.ว. เคยมีบทบาททางการเมืองในยุคเผด็จการ คสช.​ และมีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 เช่น พลเดช ปิ่นประทีป, พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม, เสรี สุวรรณภานนท์, คำนูณ สิทธิสมาน, เจตน์ ศิรธรานนท์, ตวง อันทะไชย และ สมชาย แสวงการ เป็นต้น
ขณะที่การลงมติของพรรคการเมืองก็เป็นไปตามความคาดหมาย คือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำหลักในแก้รัฐธรรมนูญลงมติเห็นด้วย ขณะที่พรรคขนาดกลาง คือ พรรรคภูมิใจไทย กับ พรรคก้าวไกล ลงมติงดออกเสียง ส่วนพรรคเล็กส่วนหนึ่งลงคะแนนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยการกับแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ เช่น พรรคเสรีรวมไทย กับบรรดาพรรคปัดเศษอีกแปดพรรค