เพื่อนทุกคนเงียบเพื่อหยุดฟังว่าฉันสอบติดหรือไม่ ฉันค่อย ๆ เลื่อนหนังสือลงอย่างช้า ๆ จากนั้นฉันก็เห็นชื่อมหาวิทยาลัยที่ฉันอยากเข้าเป็นตัวสีเขียว อ่านข้อความนั้นออกเสียงออกมา ฉันกรี๊ดเสียงดังที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต พ่อยิ้มน้ำตาคลอ เสียงเพื่อนดังออกมาจากโทรศัพท์พร้อม ๆ กันจนจับใจความไม่ได้ เราออกไปฉลองกันในตัวเมือง กลับบ้านมาอีกทีคนทั้งตำบลก็รู้ว่าฉันสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังแล้ว พ่อฉันเป็นครูหรือกรมประชาสัมพันธ์กันแน่เนี่ย นี่คือผลของความพยายามตั้งใจเรียนตลอดชีวิตที่ผ่านมาสินะ
เราฉลองกันยกใหญ่เพราะเพิ่งปรับตัวกับการเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ในใจฉันคิดว่าชีวิตมหาวิทยาลัยมันช่างสดใส เป็นอิสระ เบ่งบาน เพื่อน ๆ ก็ดี อาจารย์ก็ดี ชีวิตใหม่ของฉันเริ่มต้นที่นี่ตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ พอฉลองกันเสร็จแต่ละคนก็แยกย้ายกับภูมิลำเนาของตัวเอง แต่ในปลายปีนั้นเองก็มีข่าวไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน มีข่าวว่าในไทยก็มีคนจากเมืองนั้นมาเที่ยวหลายหมื่นคน ไม่นานก็พบว่ามีคนติดเชื้อแล้ว ตอนนั้นฉันแทบไม่คิดอะไรเลยเพราะคนติดเชื้อไม่ถึงหลักสิบคน แค่ซื้อหน้ากากอนามัยมาใส่เหมือนเดิมเพราะก่อนหน้านั้นก็เจอ PM 2.5 อยู่แล้ว แต่นั่นกลับเป็นหายนะที่ฉันและคนทั้งโลกกำลังจะเจอ
อาจารย์ดุ คิดถึงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยนิดหน่อย พอถึงเวลาก็ตื่นนอน เปิดคอมพิวเตอร์ ทำข้อสอบ อ่านหนังสือคนเดียว มีเสียงคนในครอบครัวเจี๊ยวจ๊าวบ้างก็พยายามทนไป จนจบเทอมสองของปีแรกในมหาวิทยาลัยที่ห้องนอนของตัวเองคนเดียว ฉันนึกถึงภาพตัวเองกับเพื่อน ๆ เมื่อเทอมที่แล้ว ตอนนี้เราควรได้อยู่ด้วยกันสิ หาร้านปิ้งย่างสักร้าน กินเสร็จแล้วก็ไปนั่งใต้หอคุยเล่นกันจนกว่าจะง่วง ตอนนี้เราก็ทำแบบนั้นนะ แต่เปลี่ยนเป็นการโทรระบายความหงุดหงิดใจในการเรียนรูปแบบใหม่แทน หงุดหงิดที่ไม่ได้เล่นสงกรานต์ปีแรกในชีวิตมหาวิทยาลัยกับเพื่อน ๆ หงุดหงิดที่ไม่ได้กินเลี้ยงจบปีหนึ่งด้วยกัน เห็นหน้ากันผ่านจอแก้ว ปลอบใจกันด้วยเสียงจากลำโพง เราจบปีแรกในชีวิตมหาวิทยาลัยกันแบบนั้นจริง ๆ