ศาลแพ่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวและไต่สวนฉุกเฉิน แต่คดีเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงยังไม่สิ้นสุด

50516079971_01f90b2a59_c

วันนี้ (22 ตุลาคม 2563) ที่ศาลแพ่ง ห้องพิจารณาคดีที่ 410 เวลาประมาณ 9.20 น. ศาลได้ออกนั่งพิจารณา ในคดีที่นิสิต นักศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวน 6 คน พร้อมด้วยเครือข่ายทนายความสิทธิมนุษยชน เป็นโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง รวมทั้งประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวพร้อมทั้งขอไต่สวนฉุกเฉิน โดยฟ้องพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2 และ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 3 แต่เนื่องจากพยานยังไม่ได้เดินทางมาที่ศาล ทำให้ศาลขอเลื่อนการไต่สวนเป็นตอนบ่าย

สำหรับเหตุในการฟ้องคดี คือ การให้ศาลตรวจสอบว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง รวมถึงประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่ออกมา เป็นการใช้อำนาจที่เกินความจำเป็นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์  และเป็นการจงใจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นประชาชนไม่ให้ใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมุนมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นการสลายการชุมนุม การประกาศปิดสถานที่หรืออาคารสถานีของระบบขนส่งมวลชนหรืออาคารอื่นๆ การจับกุมควบคุมตัวประชาชน สื่อมวลชน บุคลากรทางการแพทย์ นักเรียน นิสิตนักศึกษาแบบสุ่มหรือโดยไม่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย 

รวมถึงการปิดทางสัญจรของประชาชนและของรถพยาบาล การห้ามใช้วิทยุ โทรคมนาคม โทรศัพท์ เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในการเสนอข่าวสาร ภาพ เสียง หรือข้อเท็จจริงต่างๆ การสั่งให้ระงับการออกอากาศหรือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสำนักข่าว เป็นต้น

ต่อมา เวลาประมาณ 13.55 น. ศาลได้ออกนั่งพิจารณา โดยผู้พิพากษาได้แจ้งต่อทนายความว่า วันนี้ได้มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จากนั้นจึงได้อ่านคำพิพากษา เนื่องจากเหตุในการขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาและคำขอในกรณีฉุกเฉินของโจทก์ทั้งหก เป็นอันสิ้นสุดลง จึงให้งดไต่สวนฉุกเฉินและยกคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ส่วนการพิจารณาเพิกถอนประกาศและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องจึงต้องกลับไปว่ากันตามกระบวนพิจารณาปกติ ซึ่งศาลมีคำสั่งนัดในวันที่ 19 มกราคม 2563 เวลา 9.00 น.  

ภายหลังจากเสร็จการพิจารณาแล้ว ศุกรีญา วรรณายุวัฒน์ นิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในโจทก์ฟ้องคดี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ศาลจะงดไต่สวนฉุกเฉินเนื่องจากเหตุในการขอใช้วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาและคำขอในกรณีฉุกเฉินสิ้นสุดลงเพราะมีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงไปแล้วนั้น แต่เรายังยืนยันที่จะเดินหน้าฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกต่อไป เพราะนอกจากจะยกเลิกประกาศดังกล่าวแล้ว เรายังต้องการให้ยกเลิกการใช้กฎหมายกับเพื่อนเราในส่วนที่เป็นการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุม

รวมถึงจะต้องย้ำไปทุกภาคส่วนว่า การยกเลิกไม่เท่ากับเพิกถอน เราต้องการให้เพิกถอนประกาศนั่นหมายถึง ต้องปล่อยเพื่อนเราที่ถูกจับอยู่ออกมา และ สิ่งสำคัญคือ ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ และเสรีภาพ สุดท้าย ศุกรีญา ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า พวกเราจะไม่ยอม ไม่หยุด พวกเราจะเดินหน้าฟ้องต่อไป และเราจะชนะ

You May Also Like
อ่าน

กสม.ชี้หน่วยงานรัฐไทยเอี่ยวใช้สปายแวร์เพกาซัส ชงครม.สั่งสอบ-เรียกเอกสารลับ

กสม. เชื่อว่า มีการใช้สปายแวร์ เพกาซัสละเมิดสิทธิจริง โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของการตรวจสอบทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ และบริบทแวดล้อมในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หน่วยงานรัฐไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์
อ่าน

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112 . สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน นิสิตรัฐศาสตร์จากมศว จำเลยในคดีมาตรา 112 จากการกล่าวปราศรัยระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา . 25 มีนาคม ที่ผ่านมาศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา จำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากการนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา . จนถึงวันนี้(4 เมษายน 2567) เป็นเวลา 10 วันแล้วที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัว