ในเวทีรับฟังความคิดเห็นร่างพ. ร.บ.อนามัยเจริญพันธุ์ ฉบับภาคประชาชน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2556 ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แจ้งวัฒนะ นายแพทย์กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อํานวยการสํานักอนามั ยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถิติของกระทรวงสาธารณสุ ขที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาเรื่ องการท้องไม่พร้อมและการยุติ การตั้งครรภ์ หรือการทำแท้ง
นพ.กิตติพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนที่มี เพศสัมพันธ์ลดลงเรื่อยๆ สถิติการคลอดลูกของแม่ก็อายุน้ อยลงเรื่อยๆ จากการทำแบบสำรวจเมื่อปี 2555 โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า นักเรียนเพศชาย ชั้นปวช.ปีที่สอง ร้อยละ 46 ชั้นม.5 ร้อยละ 28 และชั้นม.2 ร้อยละ 5.3 เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ส่วนเพศหญิงก็มีอัตราใกล้เคี ยงกัน โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 40-50 เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามั ยในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ข้อมูลจากสำนักอนามัยเจริญพันธุ ์พบว่า ในปี 2555 มีหญิงอายุ 15-19 ปีคลอดบุตร จำนวนกว่า 120,000 คน ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ นับตั้งแต่ปี 2548 หรือมีหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี คลอดบุตรวันละ 365 คน มีหญิงอายุน้อยกว่า 15 ปีคลอดบุตรวันละ 10 คน
ด้าน ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า มีคนตายจากการทำแท้งปีละ 25-30 คนและบาดเจ็บเพราะภาวะแทรกซ้ อนจากการทำแท้งประมาณ 30,000 คน ซึ่งหนึ่งในสามของคนที่มาทำแท้ งเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 27 อายุต่ำกว่า 20 ปี และร้อยละ 46 อายุต่ำกว่า 25 ปี
คนที่มาทำแท้ง ร้อยละ 70 ไม่ตั้งใจตั้งครรภ์และไม่ได้ใช้ การคุมกำเนิด ร้อยละ 30 ใช้วิธีการคุมกำเนิดแล้วแต่ผิ ดพลาด ซึ่งมักเป็นคนที่เข้ารับบริ การคุมกำเนิดได้ยาก เช่น คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมารั บยาไม่สม่ำเสมอ สาเหตุที่ตัดสินใจทำแท้งมาจากปั ญหาเรื่องการเงินร้อยละ 50 และเรื่องสุขภาพร้อยละ 70 เรื่องการเรียนไม่จบร้อยละ 30 เรื่องหน้าที่การงานร้อยละ 16 มีลูกพอแล้วร้อยละ 14
นพ.กิตติพงษ์กล่าวด้วยว่า การที่แม่ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีผลทำให้น้ำหนักของเด็กที่เกิ ดมาต่ำกว่ามาตรฐาน คือ น้อยกว่า 2.5 กิโลกรัม ทำให้เด็กมีพัฒนาการช้า เมื่อโตขึ้นก็พัฒนาการแข่งขันกั บคนอื่นลำบาก ประเทศไทยมีอัตราของเด็กทารกที่ เกิดแล้วนักหนักต่ำกว่ ามาตรฐานสูงมาก
ทั้งนี้ นพ.กิตติพงศ์ กล่าวว่า สถิติเหล่านี้เก็บจากคนที่ มาทำแท้งในระบบสาธารณสุขกั บโรงพยาบาล แต่หากเป็นการทำแท้งในคลินิคเถื่อนนอกระบบเราก็ไม่มีข้อมูล ซึ่งอาจจะมีจำนวนและอัตราที่ แตกต่างออกไปอีกมาก
[สามารถดูข้อมูลสถิติต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมได้ตามไฟล์แนบ]
ด้านรศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เราใช้เงินหลายพันล้านต่อปี รณรงค์ลดการตายจากอุบัติเหตุ แต่ทำไมเราไม่ทำอะไรกั บการตายของหญิงจากการทำแท้ง ทุกวันนี้การทำแท้งเป็นสิ่งผิ ดกฎหมาย แต่ก็มีข้อยกเว้นสองประการให้ หมอทำแท้งได้ ซึ่งกำหนดไว้ ในประมวลกฎหมายอาญมาตรา 305 คือ มีเหตุจำเป็นต้องทำเพื่อสุ ขภาพของแม่ และ การตั้งครรภ์นั้นเกิ ดจากการกระทำความผิดอาญา
ซึ่งการกระทำความผิดอาญาไม่ได้ จำกัดเฉพาะการข่มขืน ตามมาตรา 276 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความผิดตามมาตรา 277 คือ ฐานกระทำชำเราผู้เยาว์ที่อายุ ไม่เกิน 15 ปีด้วย ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปีนั้นไม่ว่าจะมีความยินยอมหรื อไม่ก็เป็นความผิดตามมาตรา 277 และหากเกิดท้องขึ้นมา ก็เป็นข้อยกเว้นให้ หมอสามารถทำแท้งให้ได้โดยหมอไม่ มีความผิด และไม่ต้องให้ผู้ปกครองยินยอมก่ อน
ไฟล์แนบ