กฎหมายฮาเฮ : วัฒนธรรมของประเทศชาติ

เราสงสัยกันมานานแล้วว่าอะไรคือคำว่า “วัฒนธรรมของไทย” มันเป็นเพียงขนบความเชื่อ หรือมีหลักบัญญัติไว้ชัดเจน เมื่อค้นเอกสารดูนิดหน่อย กฎหมายฮาเฮตอนนี้ ก็ไปเจอว่า การอาบน้ำเอย การตากผ้าเอย การนุ่งผ้าเอย ฯลฯ มีกำหนดเอาไว้ในกฎหมายว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรมด้วย

ปัจจุบัน เราใช้พระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ซึ่งออกมาใช้แทนพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2485 ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีกันเลยทีเดียว
แต่ในพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 กำหนดไว้ว่า บรรดาพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่เคยประกาศใช้มานั้น ให้มีผลใช้บังคับต่อไป จนกว่ากฎกระทรวงตามกฎหมายใหม่จะออกมาใช้บังคับ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงใหม่ ดังนั้น กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาติไทยจึงต้องใช้กันตามกฎหมายเก่าไปก่อน
ซึ่งกฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งคือ พระราชกฤษฎีกากำหนดวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2485 ซึ่งเขียนอารัมภบทอยู่ในบรรทัดแรก แสดงถึงเจตนาของกฎหมายฉบับนี้ว่า “โดยที่เห็นสมควรกำหนดวัฒนธรรมแห่งชาติขึ้นเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตาม”
ในมาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกานี้ กำหนดให้ทุกคนต้องรักษามารยาทอันดีงามในที่สาธารณะ โดยไม่ส่งเสียงอื้อฉาว ไม่พูดจาเสียดสี หยาบคาย ไม่เบียดเสียดยื้อแย่งกัน ไม่อาบน้ำตามถนนหลวง ไม่นั่ง นอน บนทางเท้า ไม่ยื้อแย่งของแจก ฯลฯ
ในมาตรา 4 ของพระราชกฤษฎีกานี้ กำหนดหน้าที่ต่อบ้านเรือนของทุกคนให้ต้องรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ตากผ้ารุงรัง ไม่ปล่อยให้มีสิ่งของรกรุงรัง ไม่ขีดเขียนข้อความหรือภาพอันอุจาด ฯลฯ
ในมาตรา 5 ของพระราชกฤษฎีกานี้ กำหนดให้ “ทุกคนต้องรักษาเกียรติของประเทศชาติ” โดย ห้ามนุ่งแต่กางเกงใน นุ่งแต่ กางเกงนอน นุ่งผ้าขาวม้า หรือไม่สวมเสื้อ สำหรับผู้หญิงก็ห้ามสวมแต่เสื้อชั้นใน หรือผ้าคาดอก
            
ที่มาภาพ เว็บบอร์ดพันทิบ                                             ที่มาภาพ Daradaily
การกระทำเหล่านี้คงถือตามพระราชกฤษฎีกาว่าเป็นการไม่รักษาเกียรติของประเทศชาติ การฝ่าฝืนพระราชกฤษฎีกากำหนดวัฒนธรรมแห่งชาตินี้ เดิมมีความผิดและมีโทษด้วย ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ.2485 มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท! (อย่าลืมว่า เป็นหนึ่งร้อยบาทของปี พ.ศ. 2485)
แต่ปัจจุบันตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553 ไม่มีมาตราใดกำหนดโทษสำหรับการฝ่าฝืนเอาไว้แล้ว ดังนั้น ตอนนี้หากมีการฝ่าฝืนพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ก็ไม่มีกฎหมายใดที่กำหนดบทลงโทษไว้แล้ว
คงต้องรอดูกฎกระทรวงและกฎหมายลูกที่จะออกมาใหม่ด้วย ว่าจะบัญญัติเรื่องวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไว้เหมือนหรือแตกต่างกับพระราชกฤษฎีกาที่ออกมาเมื่อเจ็ดสิบปีที่แล้วอย่างไร
เอ๊ะ! แต่ กฎหมายเขียนว่าห้ามผู้หญิงใส่ผ้าคาดอก
แล้วถ้าไม่ใส่ผ้าคาดอกแบบรูปนี้ ก็คงไม่ผิดแปลก ไม่เป็นการไม่รักษาเกียรติของชาติล่ะสินะ หุหุหุ
ที่มาภาพ เว็บไซต์mthai
 
กฎหมายอย่างนี้ก็มีด้วยนะเนี่ยยยยยยย
………………… เรื่องราวกฎหมายฮาเฮ เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาติยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ติดตามได้อีกที่นี่ เร็วๆ นี้
ไฟล์แนบ